8. ชื้อของโดยคิดว่าคนอื่นชอบเหมือนเรา
ฉันชอบซื้อของ เลือกของให้ในวันแต่งงาน วันเกิดเพื่อน วันเกิดลูกเพื่อน ขึ้นบ้านใหม่ ฯลฯ แต่พออายุมากขึ้นก็เริ่มเข้าใจชีวิตมากขึ้นจึงพบว่าเช็ดของขวัญนี่ยอดเยี่ยมที่สุดแล้ว และถ้ไม่สนิทจริงๆ เวลาให้ของขวัญอย่าเลือกให้ของที่ส่วนตัวเกินไป แล้วมานั่งเจ็บใจว่าเราอุตส่าห์เดินหาแทบตาย พอเปิดของขวัญเราแล้วก็วางทิ้งไว้ตรงนั้นเลย
9. ชื้อเพราะทนคนขายไม่ไหว
คิดว่าคงจะเป็นกันทุกคน ประเภทเจอคนขายดื้อทุกวัน เจอโฆษณาบอกว่าดีทุกวัน
คุณตกยุคแน่ถ้าไม่เอามาใช้สักเครื่อง หรือมลภาวะรอบตัวคุณเป็นพิษแล้ว
ต้องมีเครื่องกรองน้ำ กรองอากาศดูดไรฝุ่น คั้นน้ำผลไม้สด
อุปกรณ์สำหรับคนทันสมัยเช่นคุณ แม้กระทั่งตั้งใจแน่วแน่แล้วว่าจะไม่ซื้อ แต่เจอคนขายส่งสายตาดูถูกหาว่าเราไม่มีปัญญา
เลยต้องซื้อประชดแล้วกลับมานั่งเสียดายเงิน
10. ชื้อด้วยอารมณ์
เช่น เพื่อนบอกว่ารองเท้าคู่นี้เหมาะมาก ใส่แล้วสวยรับกับใบหน้าทั้งๆที่ยังมีรองเท้าที่ไได้ใช้อีก
4คู่ หรือไม้กอล์ฟอันนี้น้ำหนักดีมากสัดส่วนสวย ถึงตีไม่ดี
อุปกรณ์มีระดับช่วยได้ ของอย่างนี้ต้องมีไว้ หรือวันนี้หงุดหงิดมาก เจ้านายให้พรแต่เช้า
ลูกน้องก็ไม่ได้ดั่งใจ ช็อปปิ้งดีกว่า
เสียเงินแล้วอารมณ์ดีขึ้นเยอะเลย
ตอนที่ไม่ฉลาดใช้
1. ใช้ของต่อจากคนอื่นไม่เป็น
คือมีความเชื่อว่า ใช้ของต่อจากคนอื่นแล้วจะติดโรคร้ายมาจากเจ้าของเดิม
ทั้งที่จริงๆแล้วถ้าคุณไปเรียนที่ต่างประเทศ หนังสือเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้ามือสอง
เว็บไซต์ขายของมือสองเป็นเรื่องธรรมดามาก
2. ใช้ของแบบทะนุถนอมไม่เป็นเวลาอ่านหนังสือ
เห็นคนอื่นเค้าอ่านเสร็จแล้วยังดูดีเหมือนใหม่พอผ่านมือคุณนึกว่าโดนรถทับมา หรือซื้อรถ ของเพื่อนล่างๆขัดๆทุกสัปดห์
เหลียวกลับมามอง ทำไมของๆจำสีเดิมแทบไม่ได้
3. ใช้น้อยเกินไปหรือใช้เยอะเกินไป
ซื้อครีมกหนราคาแพงแล้วใช้ที่ละนิดทีละหน่อย ดูอีกที อ้าวหมดอายุ หรือกลับกัน
ซื้อมาโหมประโคมโป๊ะใส่หน้า ใช้แป๊บๆหมดเป๊บๆ หมด
4. ที่ควรใช้ไม่ใช้ กลับไปใช้ที่ไม่ควรใช้
แทนที่จะออกกำลังกาย กินอาหารครบห้าหมู่ กลับไปกินอาหารเสริม วิตามิน สมุนไพรลดความอ้วน แท่งโปรตีนเพิ่มพลังงาน แล้วมีความหวังเต็มปี่ยมว่าสุขภาพจะดี
#ออมเงิน #ลงทุน #แทงบอลออนไลน์