เหล่าพ่อค้าแม่ค้ามือใหม่เมื่อเห็นบทความนี้ก็อาจจะสงสัยว่าทำไมเราต้องรู้เรื่องการคิดราคาสินค้าในการขายตามแหล่งช็อปปิ้งด้วย ในเมื่อเราก็ตั้งราคาสินค้าที่ขายในแต่ละชิ้นไว้ตามสมควรอยู่แล้ว ไม่ว่าจะไปขายที่ไหนก็ตามเราก็ต้องขายสินค้าตามราคาจริงที่เหมาะสมให้ลูกค้าสิ นั่นก็เป็นสิ่งที่ถูก…หากคุณไม่ได้ขายตามแหล่งช็อปปิ้งเฉพาะอย่างในห้างสรรพสินค้า ตลาด หรือย่านบันเทิงที่มีพื้นที่ให้เหล่าพ่อค้าแม่ค้ามาตั้งซุ้มแผงหรือร้านรวงวางขายสินค้าให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาช็อปปิ้งเลือกซื้อสินค้าต่าง ๆ ได้ ในเมื่อคุณมีพื้นที่ขายอยู่ในโลกโซเชียลก็ไม่ต้องตั้งราคาที่สูงกว่าราคามาตรฐานของสินค้า แน่นอนว่าส่วนใหญ่หลายคนก็คงขายสินค้าตามแหล่งช็อปปิ้งกันอย่างที่เราได้กล่าวไปจริงหรือไม่ ฉะนั้นวันนี้เราจึงขอมาแนะนำ How To คิดราคาสินค้าในการขายตามแหล่งช็อปปิ้งเพื่อให้คุณได้ขายสินค้าให้แก่ลูกค้าในราคาที่เหมาะสมเป็นกลางสำหรับคุณกับลูกค้า

คิดราคาสินค้าในการขายตามแหล่งช็อปปิ้งจากค่าที่
เมื่อเหล่าพ่อค้าแม่ค้าต้องไปขายสินค้าในแหล่งช็อปปิ้งต่าง ๆ ก็ย่อมต้องมีค่าเช่าที่หรือทำเลในการตั้งร้านขายสินค้าของตัวเองเป็นธรรมดา เพราะพื้นที่ทุกที่ล้วนแล้วแต่มีเจ้าของในครอบครองทั้งนั้น แต่เขาก็ได้ปล่อยว่างให้ผู้คนสามารถใช้พื้นที่เหล่านั้นในการทำมาหากินได้โดยการจ่ายค่าใช้พื้นที่ให้เขาสักหน่อยเพื่อประโยชน์ในการใช้ร่วมกัน ซึ่งยิ่งเป็นพื้นที่แหล่งช็อปปิ้งขนาดใหญ่หรือพื้นที่สำคัญที่คนมากันเยอะก็ยิ่งมีค่าเช่าที่แพงมากขึ้นเท่านั้น คุณจึงต้องนำค่าเช่าที่บางส่วนที่เสียไปมาร่วมคิดกับราคามาตรฐานสินค้าด้วย ไม่ให้ขาดทุน เพราะหากขายสินค้าได้น้อย แต่เสียค่าที่เยอะก็สู้ไม่ไหวเหมือนกัน

คิดราคาสินค้าในการขายตามแหล่งช็อปปิ้งจากวัตถุดิบ
แม้ว่าวัตถุดิบจะถูกนำไปใช้เป็นราคาสินค้าเพื่อให้ได้ราคามาตรฐานที่ผลิตออกมาตั้งแต่แรกแล้วก็ตาม แต่เมื่อพ่อค้าแม่ค้าต้องไปขายสินค้าในแหล่งช็อปปิ้งและต้องขายสินค้าประเภทที่ต้องทำเองกันเมื่อลูกค้าเข้ามาสั่งอย่างอาหารและเครื่องดื่ม บริเวณนั้นก็หาวัตถุดิบที่คุณจะใช้ยากในบางอย่างทำให้ต้องเสียค่าจัดส่งวัตถุดิบหรือค่าน้ำมันรถด้วยกว่าจะได้มา และบางทีร้านค้าที่ขายวัตถุดิบนั้นก็มีราคาสูง ในบางกรณีคุณอาจต้องมีการเพิ่มวัตถุดิบอย่างท็อปปิ้งพิเศษสำหรับลูกค้าที่อยากเสริมด้วยจึงต้องมีการคิดค่าวัตถุดิบรวมอยู่ในสินค้าประเภทนี้ในการขายด้วย

คิดราคาสินค้าในการขายตามแหล่งช็อปปิ้งจากค่าไฟ
เป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กันของพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของมีหน้าร้านเป็นของตัวเองและต้องใช้ไฟฟ้าในการขายสินค้าที่จำเป็นจะต้องมีการสาธิตให้ดู ใช้ไฟฟ้าในการทำอาหารหรือเครื่องดื่มตามออเดอร์ที่ลูกค้าต้องการ และใช้ไฟฟ้ากับสินค้าอื่นที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการขายด้วยเช่นกัน ซึ่งคุณต้องนำค่าไฟฟ้าส่วนหนึ่งไปคิดรวมอยู่ในราคาสินค้าของคุณด้วย เพราะเมื่อลูกค้าสนใจหรือต้องการสั่งสินค้าก็เท่ากับว่าเขาทำให้เราจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้านั่นเอง
#HowToคิดราคาสินค้า #แหล่งช็อปปิ้ง #ลงทุนง่ายๆ